" "

ลิเวอร์พูลตอบคำถามเราอีกแล้ว

ลิเวอร์พูลตอบคำถามเราอีกแล้ว

ช่วงเวลา 2 สัปดาห์ที่หยุดไปเพื่อหลีกให้กับปฏิทินฟีฟ่าเดย์

คือช่วงเวลาแห่งความทรมานจริงๆเพราะคำถามถูกปล่อยให้รอ และแฟนบอลต้องรอนานกว่าปกติ

ช่วงเวลา 2 สัปดาห์ที่หยุดไปเพื่อหลีกให้กับปฏิทินฟีฟ่าเดย์

ในช่วงที่ฟุตบอลลีกฟาดแข้งกันตามโปรแกรม คำถามจะค้างคาอยู่เพียงไม่เกิน 3-4 วันเพราะลิเวอร์พูลต้องลงเตะต่อเนื่องทั้งมิดวีกและวีกเอนด์

แชมเปี้ยนส์ ลีก วันอังคาร/พุธ

พรีเมียร์ลีก วันเสาร์/อาทิตย์/จันทร์

คำถามไม่ถูกปล่อยให้รอนาน ไม่ได้มีเวลาเพาะบ่มความกังวลมากนักเกมต่อไปก็มาถึงแล้ว

และผลการแข่งขันก็มักจะชวนให้คลายความกังวลเสียด้วย เพราะนับตั้งแต่ที่คำถามใหญ่ที่สุดเกิดขึ้นเมื่อเสีย เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ในเกมกับเอฟเวอร์ตันกลางเดือนตุลาคม ลิเวอร์พูลก็เดินหน้าคว้าชัยชนะมาได้ตลอด

ชนะ อาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม ชนะเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ชนะมิดทิลลันด์ ชนะเวสต์แฮม ชนะอตาลันต้า 5-0 ก่อนจะเสมอกับเสมอแมนฯ ซิตี้ ในเอติฮัด สเตเดี้ยมที่เพิ่งจะถูกทีมเรือใบสีฟ้าโขยก 0-4 ปลายฤดูกาลที่แล้ว

ชนะ 5 เสมอ 1 ใน 6 เกมที่ไม่มีฟาน ไดค์ อันที่จริงคำถามก็ได้รับคำตอบชัดเจน แต่กระนั้นก็ยังไม่วายที่แฟนบอลจะกังวล

ยิ่งกับเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นราวกับถูกกลั่นแกล้ง ฟาบินโญ่เจ็บจากเกมมิดทิลลันด์ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์เจ็บจากเกมแมนฯ ซิตี้ ก่อนจะตามมาด้วยซีรี่ส์แห่งฝันร้ายในช่วงโปรแกรมทีมชาติ 11 พฤศจิกายน โจ โกเมซ เจ็บ.. 13 พฤศจิกายน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ติดเชื้อโควิด-19.. 15 พฤศจิกายน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กับ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน เจ็บ.. 17 พฤศจิกายน รีส วิลเลียมส์ เจ็บ.. 18 พฤศจิกายน ผลตรวจโควิด-19 รอบสองของซาลาห์ยังยืนยันผลเป็นบวก

ตีอาโก้ อัลกันตาร่า ก็ยังต้องเรียกความฟิตนานกว่าที่คิดหลังเจ็บจากเกมเมอร์ซี่ย์ไซด์ดาร์บี้เหมือนฟาน ไดค์

เรื่องแย่ๆ เหล่านี้มาเกิดขึ้นในเวลาที่ไม่เหมาะอย่างที่สุด เพราะการรอคอยคำตอบไม่ใช่ 3-4 วันเหมือนปกติอีกแล้ว แต่เป็น 2 สัปดาห์

2 สัปดาห์เต็มๆ ที่แฟนบอลลิเวอร์พูลต้องอยู่กับความไม่แน่ใจ จริงอยู่ผลการแข่งขันในวันที่ไม่มีฟาน ไดค์ ไม่มีฟาบินโญ่ ไม่มี ตีอาโก้ อัลกันตาร่า ยังคงไปได้สวยงาม แต่กับคำถามใหม่ที่ไม่มีเทรนท์ ไม่มีโกเมซ ไม่มีซาลาห์ ไม่มีเฮนโด้เพิ่มเติมเล่า

มันจะออกมาเป็นอย่างไร?

ที่สำคัญคือคู่ต่อสู้ในวันที่ทีมต้องตอบคำถามข้อใหญ่คือทีมที่เป็นจ่าฝูงเมื่อเข้าสู่สัปดาห์ล่าสุดนี้ เกมรุกดีเป็นอันดับสาม เกมรับดีเป็นอันดับหนึ่ง เต็มไปด้วยพิษสงรอบตัวและยังมีประสบการณ์จากการยืนระยะอยู่ในกลุ่มท็อปโฟร์เกือบตลอดทั้งฤดูกาลเมื่อซีซั่นที่แล้ว

ว่ากันในแง่ชื่อชั้น เลสเตอร์ ซิตี้ ดูไม่น่ากลัวเท่าบิ๊กซิกซ์ทีมอื่นๆ หรอก แต่หากมองในแง่ผลงานอันเป็นรูปธรรม ตำแหน่งจ่าฝูงของทีมจิ้งจอกสีน้ำเงินหลังผ่านการเตะไป 8 นัดคือนิยามของความยากในตัวอยู่แล้ว

กระนั้นดูสิ่งที่ลิเวอร์พูลแสดงให้เห็นตลอดเวลา 90 นาทีในแอนฟิลด์เมื่อคืนวันอาทิตย์สิ นี่คือทีมที่เต็มไปด้วยปัญหาจริงหรือ

เราทุกคนคงรู้คำตอบ..

อลีสซง เบ็คเกอร์ แทบไม่มีลูกยากให้ทำงาน

โรเบิร์ตสัน แมนออฟเดอะแมตช์

เจมส์ มิลเนอร์ น้องๆ แมนออฟเดอะแมตช์

ฟาบินโญ่ กับ โฌแอล มาติป เก็บกินเรียบทั้งลูกเรียด-ลูกโด่ง

นาบี เกอิต้า ลุยมันสุดๆ

เคอร์ติส โจนส์ ลื่นไหลไม่มีเสียบอล

จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม กำกับเกมในบทบาทเบอร์ 6

ดีโอโก้ โชต้า ยิงในแอนฟิลด์ 4 นัดติดนับตั้งแต่เกมเปิดตัว ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน

ซาดิโอ มาเน่ มอบความปั่นป่วนให้คู่ต่อสู้

โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ เชื่อมเกม สร้างเกม ฉกฉวยโอกาสทำประตูที่ต้องการจนได้

หมดจากเกมนี้ยังจะมีคำถามหลงเหลืออยู่อีกไหมกับลิเวอร์พูล.. ตอบได้ทันทีว่ามีแน่ คำถามไม่เคยหมดไปจากใจแฟนบอลหรอก ก็คนมันรักจะให้ไม่ห่วงได้ยังไง

เพียงแต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นแน่ๆ อีกเช่นกันก็คือ ในคำถามต่างๆ เหล่านั้นที่กำลังจะเกิดขึ้นใหม่ พวกเขาจะมั่นใจในคำตอบมากกว่าเดิม

คำตอบที่ยังมาไม่ถึงนั่นแหละ.. พวกเขาจะมั่นใจกับมันมากขึ้น และเข้าใจมันมากขึ้นด้วย

เพียงได้เห็นความพยายามของฟีร์มีโน่ในเกมนี้ และการสวมกอดจาก เจอร์เก้น คล็อปป์ หลังจบเกม ก็เหมือนทุกคนถูกดึงให้กลับไปอยู่ในจุดที่เราเริ่มต้นมาด้วยกัน

เปลี่ยนความสงสัยให้เป็นความเชื่อ

เชื่อมั่นในกันและกัน เชื่อมั่นในคนของเรา

อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด อย่างน้อยในการทำงานของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ของทีมงานของเขา ของผู้บริหารของเขา ก็ทำให้เรารู้ว่าลิเวอร์พูลไม่ได้อยู่ในมือของคนที่ไม่ได้เรื่องหรือไม่รู้เรื่อง

ตรงกันข้าม ลิเวอร์พูลอยู่ในมือของคนที่ดูแลสโมสรอย่างดีที่สุดแล้ว

เราลองกวาดตาดูสโมสรลิเวอร์พูลที่เรารักให้ทั่วๆ อีกสักครั้งแล้วคุณจะเห็นว่าข้อสงสัยและความกังวลน้อยใหญ่ที่เรามีนั้นกลายเป็นเพียงเรื่องขี้ปะติ๋วจริงๆ

อลีสซงเจ็บ ฟาน ไดค์เจ็บ เทรนท์เจ็บ เฮนโด้เจ็บ ซาลาห์ติดโควิด ตีอาโก้ยังไม่กลับมา… เรื่องแค่นี้น่ะหรือที่เราวิตกกังวลจนจะเป็นจะตาย

ถ้าสมมติว่าเราจะไม่ได้แชมป์หรือป้องกันแชมป์ไม่ได้แล้วมันจะทำไม โลกจะแตกสลายในทันทีทันใดไหม แล้วสิ่งที่เรามองเห็นกันอยู่ตรงหน้าชัดๆ นี่ไม่ใช่อนาคตที่สดใสและพัฒนาการยั่งยืนที่ดีกว่าหรือไร

ต่อเติมอัฒจันทร์ฝั่งเมนสแตนด์เพิ่มความจุผู้ชมเป็นห้าหมื่นสี่ ต่อเติมอัฒจันทร์ฝั่งแอนฟิลด์ โร้ดในเฝสต่อไปจะขยับยอดคนดูทะลุหกหมื่น

ปรับภูมิทัศน์โดยรอบของสนาม ขยายสโตร์จำหน่ายสินค้าจากใต้ถุนอัฒจันทร์ออกมาตั้งตระหง่านใหญ่โตทันสมัย

สนามซ้อมแห่งใหม่ที่มีทุกอย่างครบครัน เติบโตทั้งด้านวัตถุและจิตวิญญาณ

ทีมงานวิเคราะห์นักเตะชั้นเลิศ ทีมเจรจาสัญญาชั้นเยี่ยม

รากฐานต่างๆ ที่สโมสรลิเวอร์พูลวางลงไปตลอดเวลาที่ผ่านมา มันคืออนาคตล้วนๆ เพียงแต่เดอะค็อปนั้นได้กำไรเพราะอนาคตอันยั่งยืนที่ว่านั้นพวกเขาสามารถเก็บเกี่ยวมันได้แล้วตั้งแต่วันนี้ ไม่ใช่สิ.. เริ่มเก็บเกี่ยวมันตั้งแต่ 3 ปีก่อนแล้วด้วยการเข้าชิงเจ้ายุโรปกับเรอัล มาดริด

ลองสูดลมหายใจลึกๆ ตั้งหลักกันอีกสักครั้ง มองดูอนาคตที่อยู่เลยออกไปอีกไกล แล้วเราจะพบว่าเรื่องนักเตะเจ็บที่เราคร่ำครวญกันนั้นเป็นเพียงเรื่องเล็กนิดเดียว

 

 

บทความโดย  :: ป้าพล็อต

อ่านข่าวฟุตบอลต่างประเทศ :: ข่าวฟุตบอลวันนี้

บทความฟุตบอล :: บทความฟุตบอลก่อนหน้านี้

เว็บดูบอลออนไลน์ :: ดูบอลออนไลน์ฟรี