“ฝุ่นใต้พรม”

“ฝุ่นใต้พรม”
.
.
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พลาดการขึ้นไปเป็นอันดับ 3 ของตารางพรีเมียร์ลีก อย่างน่าผิดหวังหลังเกมที่โดน เซาธ์แฮมป์ตัน ตีเสมอ 2-2 ทว่านั่นยังทำให้พวกเขาไม่แพ้ใครเป็นนัดที่ 18 นัดติดในทุกรายการ

นั่นคือสถิติดีที่สุด จากการเอาชนะคู่แข่ง 13 และเสมอ 5 ซึ่งเป็นผลงานดีสุดนับตั้งแต่ เมษายน ถึง พฤศจิกายน 2010 ที่ไร้พ่าย 29 เกม หรือว่าง่ายๆคือไม่แพ้ใครติดต่อกันนานสุดนับตั้งแต่หมดยุค เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน

อาจมองในแง่ดีก็ได้ กับสถิติอันสวยหรูเช่นนี้ ทว่ามันก็มีเรื่องราวอันน่าเป็นห่วงซ่อนอยู่หลังเกมรับผู้มาเยือนจากแดนใต้

โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เลือกยึดทีมที่กำลังทำผลงานกันได้อย่างยอดเยี่ยมเป็นนัดที่ 5 ติดต่อกัน ซึ่งเหตุการณ์ใช้ทีมชุดเดิมติดต่อกันนานแบบนี้ในพรีเมียร์ลีก เกิดขึ้นกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ครั้งสุดท้ายเมื่อปี 1993

หรือ 27 ปีมาแล้วนั่นเอง

หากเป็นช่วงเวลาปกติ ไม่ได้ต้องมาเตะติดๆกันต่อเนื่องในยุคฟุตบอล ‘นิว นอร์มอล’ แบบนี้ มันก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะหากเตะสัปดาห์ละครั้งแล้วใช้ทีมงานชุดเดิมมันย่อมจะน่ายินดีเสียอีก

ไม่มีใครอยากเปลี่ยนทีมที่ดีอยู่แล้วหรอก หากแต่มันคงต้องพิจารณากันละเอียด และบริหารทีมให้เหมาะสมกว่าเดิมท่ามกลางสถานการณ์แบบนี้

นั่นคือสิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังมีปัญหาเรื่องของขุมกำลังเชิงลึก

นักเตะสำรองคุณภาพไม่ทัดเทียมกับนักเตะตัวจริง หากมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นมา เมื่อนั้นมีอันต้องได้ผลการแข่งขันที่ไม่โอเค

อย่างเช่นในเกม เอฟเอ คัพ กับ นอริช ซิตี้ นี่ยิ่งชัดเจนเลย โซลชา ปรับเอากำลังสำรองลงสนามหลายตำแหน่งด้วยกัน จึงไม่อาจเช็กบิลทีมที่กำลังจะตกชั้นในเวลานั้นได้ในเวลา 90 นาที

โซลชา ไม่เชื่อมั่นในตัวสำรองที่มี จึงไม่อาจส่งลงสนามในเกมพรีเมียร์ลีก ที่พวกเขากำลังลุ้นขึ้นไปรั้งอันดับ 3

ก็เมื่อหันไปบนม้านั่งสำรอง แล้วเจอหน้านักเตะอย่าง อันเดรียส เปเรยร่า, ฆวน มาต้า, แดเนียล เจมส์ คุณหวังความสำเร็จได้มากเท่าไหร่กัน นี่ไม่ต้องพูดถึง เจสซี่ ลินการ์ด ที่ไร้พัฒนาการและน่าจะโดนเฉดหัวช่วงซัมเมอร์

โซลชา และฝ่ายบริหารต้องไคร่ครวญเรื่องม้านั่งสำรองให้ละเอียดกว่าเดิมในช่วงซัมเมอร์นี้ ต้องมีตัวมาคอยสลับสับเปลี่ยน โดยที่ไม่เกิดความแตกต่างมากเกินไปเหมือนอย่างที่เป็นอยู่ในตอนนี้

ดูตัวอย่างง่ายๆอย่าง ลิเวอร์พูล พวกเขาไม่ได้มีนักเตะสำรองเวิลด์คลาสอะไรมากมาย ทว่าเมื่อเปลี่ยนทีมแล้วก็ยังดูมีความหวังถึงชัยชนะ

หากจะลุ้นความสำเร็จในรายการพรีเมียร์ลีกแบบจริงจัง

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องกวาดฝุ่นใต้พรมตรงนี้ออกมาชำระสะสางอย่างจริงจังได้แล้ว

ติดตามข่าวสารได้ที่ :: ข่าวฟุตบอลต่างประเทศ

บทความฟุตบอล :: อ่านบทความฟุตบอลก่อนหน้านี้

เว็บดูบอลออนไลน์ :: ดูบอลออนไลน์ฟรี