เกมแรกที่อึดอัด
ผ่านเกมแรกที่ต้องตอบคำถามบางข้อจากแฟนบอลไปแล้ว..
ลิเวอร์พูล 4 ลีดส์ ยูไนเต็ด 3
มันก็ยังหลงเหลือคำถามอีกบางข้อ หรืออาจจะหลายข้อเหมือนกันสำหรับแฟนบอลบางคนที่กังวลมากหน่อย
ทำไม อลีสซง เบ็คเกอร์ ดูไม่เหนียวเหมือนเดิม
เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ทำพลาดจนเสียประตู
โจ โกเมซ ยังรั่วตามเคย
เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ดร็อปไปจากมาตรฐาน
นาบี เกอิต้า ยังเป็นพลังขับเคลื่อนให้ทีมไม่ได้อย่างที่ควร
โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ เงียบหายไปไหม
ฯลฯ
หลากเรื่องหลายจุดที่เดอะค็อปยังขมวดคิ้ว เป็นห่วงทีมชุดป้องกันแชมป์ว่าจะปฏิบัติภารกิจสำเร็จหรือเปล่า บ้างก็ด่วนตัดสินทีมไปแล้วด้วยซ้ำสภาพแบบนี้อย่าว่าแต่ป้องกันแชมป์เลย พื้นที่ท็อปโฟร์ก็ยังหลุด
ก็แล้วแต่จะว่ากันไป มันคือความกังวล แฟนบอลทุกทีมเป็นเหมือนกันหมดนั่นแหละ ทีมระดับลุ้นแชมป์ก็กังวลเรื่องเป็นแชมป์ ทีมระดับลุ้นพื้นที่สโมสรยุโรปก็กังวลเรื่องทำอันดับไม่ถึง ทีมระดับต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดก็กังวลเรื่องการตกชั้น
ปัญหาที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ เห็นจากเกมแรกก็คงเป็นเรื่องเกมรับ การจัดระเบียบและความตื่นตัวในการยืนตำแหน่ง
ก็อย่างที่เขาอธิบายนั่นแหละ ประตูแรก เทรนต์ แบ๊กขวายืนต่ำกว่า โกเมซ และ ฟาน ไดค์ ที่เป็นคู่เซนเตอร์ในจังหวะที่คู่ต่อสู้วางบอลยาว มันไม่ควรเกิดขึ้นในแง่มุมของการป้องกัน
ก็ต้องปรับ ต้องกระตุ้น ต้องเน้นย้ำกันไป แต่ในอีกภาพหนึ่งมันก็ทำให้เราเห็นว่าแม้กระทั่งมืออาชีพก็ยังพลาดแบบตกม้าตายได้ การยืนของฟูลแบ๊กที่ไม่ควรต่ำกว่าเซนเตอร์แบ๊กเป็นคล้ายๆ หลักการพื้นฐานของเกมป้องกัน นักเตะอย่าง เทรนต์ ที่เป็นถึงดาวรุ่งยอดเยี่ยมจากการเลือกของเพื่อนร่วมอาชีพด้วยกันก็ยังพลาด
ก็เพราะฟุตบอลมันเป็นอย่างนี้ มันคือเกมของการบริหารความผิดพลาด กับคู่ต่อสู้เลเวลใกล้เคียงกันใครพลาดน้อยกว่าก็มีโอกาสเป็นผู้ชนะมากกว่า
คุณภาพโดยรวมของลีดส์นั้นยังสู้ลิเวอร์พูลไม่ได้หรอกแต่เกมที่แอนฟิลด์วันนั้น มาร์เซโล่ บิเอลซ่า ทำได้ยอดเยี่ยมจริงๆ กำหนดแผนการเล่นที่ได้ผล นักเตะมีความมุ่งมั่นไม่สะทกสะท้านไปกับสถานการณ์ที่ตกเป็นรองเลย
เกมเปิดหัวพรีเมียร์ลีกในรอบ 16 ปี ไปเยือนบ้านของแชมป์เก่า โดนนำตั้งแต่นาทีที่ 3 แต่นักเตะยูงทองไม่เสียขวัญกลับปักหลักสู้และรอโอกาสที่หงส์แดงอาจเปิดให้ แล้วมันก็เป็นไปตามที่พวกเขาหวังจริงๆ
ลีดส์เล่นฉลาดและฉลาดเล่น เลือกช็อตกดดันลิเวอร์พูลได้หลายครั้ง อันที่จริงก็เกือบทุกเพลย์ ซาดิโอ มาเน่ กับ ฟีร์มิโน่ จึงมีเกมที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ บอลจากแดนกลางก็ถูกกดให้เล่นยากด้วยการเคลื่อนที่ของนักเตะลีดส์แต่ละคน
เช่นเดียวกับเกมรุกที่เราต้องยกเครดิตให้ลีดส์ด้วยที่ฉวยโอกาสจากความผิดพลาดของลิเวอร์พูลไปเป็นประโยชน์ได้แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย ทีมชุดนี้ดูมั่นและมีอนาคต
ภายใต้การดูแลของบิเอลซ่าแฟนบอลยูงทองสามารถวาดฝันถึงฤดูกาลที่สวยงามได้อย่างจริงๆ จังๆ
ก้าวแรกผ่านไปแล้วยังเหลืออีกหลายก้าวให้เดินกว่าจะถึงเส้นชัย ทุกฤดูกาลแต่ละทีมต้องพบกับปัญหาที่ต้องสะสางกันทั้งนั้น ใครทำได้ดีที่สุดก็ได้เปรียบที่สุด ฤดูกาลก่อนที่ลิเวอร์พูลเป็นแชมป์แบบทิ้งขาดก็ใช่ว่าจะไม่เจอปัญหาเลยเพียงแต่คล็อปป์และลูกทีมฝ่าฟันเอาตัวรอดได้ทีละเกมๆ
บางเกมก็เจียนไปเจียนอยู่ บางเกมก็เจียนอยู่เจียนไป แต่สุดท้ายเอาสามคะแนนติดมือได้ทุกที เราจึงได้เห็นผลงานที่น่าเหลือเชื่อเตะ 27 นัดแรกชนะ 26 เสมอ 1 ไม่แพ้ใครเลย เช็กบิลการรอคอยอันยาวนานตั้งแต่ตอนนั้น
ข้อผิดพลาดในแนวรับ การเล่นของกองกลาง ความมั่นใจของแดนหน้า มันก็น่าดูว่าขนาดมันเกิดขึ้นพร้อมๆ กันในเกมที่คู่ต่อสู้เล่นได้ดีเหลือเกิน ลิเวอร์พูลก็ยังควักสามคะแนนออกมาได้ นี่คือความแข็งแกร่งของพวกเขา
แน่ล่ะแฟนบอลคงหายใจไม่ทั่วท้อง ถ้าเป็นไปได้ก็ไม่อยากให้ชนะลักษณะนี้บ่อยๆ เพราะคงเป็นไปไม่ได้ที่จะทำมันตลอดไป แต่ก็นั่นล่ะ ชนะย่อมดีกว่าไม่ชนะอยู่แล้ว เวลานี้ลิเวอร์พูลเตะ 1 ชนะ 1 สถิติยังร้อยเปอร์เซนต์ นั่นคือการออกตัวที่ยอดเยี่ยมถ้าจะมองในด้านดี
ฟุตบอลเล่นเป็นทีมและเจอคู่ต่อสู้ที่เตรียมตัวมาพร้อม อาจจะมีตะกุกตะกักบ้างแต่นั่นเป็นเรื่องธรรมดาของเกมฟุตบอล มีวันที่ดีมีวันที่แย่ สำคัญกว่าคือเมื่อเราเจอกับวันที่ดีเราเก็บชัยชนะได้ไหม และถ้าเรามีวันแย่เราเอาตัวรอดได้อย่างไร ยังคงเป็นผู้ชนะได้เหมือนเดิมไหม
ลิเวอร์พูลยังทำได้ และนั่นเป็นเรื่องที่น่าพอใจ ผ่านเกมแรกไปแล้วด้วยสามคะแนนในมือ ย่อมดีกว่าการลงสนามในเกมที่สองโดยมีเพียงคะแนนเดียวหรือยังไม่มีสักแต้มติดตัว
ตามให้กำลังใจคล็อปป์และนักเตะกันต่อไปดีกว่าว่าจะมีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างไรในเกมที่รออยู่ นัดต่อไปต้องเยือนเชลซี นัดถัดไปรับมืออาร์เซน่อล นี่คือ 2 เกมที่มาถึงในเวลาที่เหมาะเจาะ
เราได้เห็นฟอร์มอาร์เซน่อลกันไปแล้ว กำลังจะได้เห็นผลงานของเชลซี ซึ่งไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ทั้งทีมปืนใหญ่และสิงโตน้ำเงินครามมีคุณภาพทีมและนักฟุตบอลเหนือกว่าลีดส์ ยูไนเต็ดที่เพิ่งทำให้ลิเวอร์พูลหืดจับ
เพิ่งจะแพ้อาร์เซน่อลมาทั้งในลีกและคอมมิวนิตี้ชิลด์ ส่วนเชลซีก็ทำเอาเลือดตาแทบกระเด็นในวันที่บดชนะ 5-3 ในแอนฟิลด์ มันคือ 2 เกมอันตรายสุดๆ แต่ในขณะเดียวกันถามว่ากลัวหรือก็คงไม่กลัวหรอก หากเป็นความรู้สึกหวั่นที่แทรกซึมอยู่บางๆ
หากบางทีเจอทีมใหญ่ด้วยกัน รูปเกมอาจจะออกมาอีกแบบก็ได้ เจอทีมใหญ่อาจจะง่ายกว่าเจอทีมเล็กก็ได้
สองเกมใหญ่ที่น่าหวาดเสียว มันอาจจะออกมาแย่ก็ได้.. หรือเพอร์เฟกต์สมบูรณ์แบบก็เป็นไปได้เหมือนกัน
บทความโดย :: ป้าพล็อต
อ่านข่าวฟุตบอลต่างประเทศ :: ข่าวฟุตบอลวันนี้
บทความฟุตบอล :: บทความฟุตบอลก่อนหน้านี้
เว็บดูบอลออนไลน์ :: ดูบอลออนไลน์ฟรี
