ฤดูกาลที่ลุ้นสนุก

มันจะเป็นฤดูกาลที่ลุ้นกันสนุกกว่าครั้งล่าสุดแน่นอน

ในเวลาเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว ลิเวอร์พูลเพิ่งจะผ่านเกมที่ 18 ของฤดูกาลด้วยการพกตำแหน่งแชมป์โลกกลับมาจากกาตาร์แล้วยกพลไปถล่มเลสเตอร์ ซิตี้ 4-0

ชนะเป็นเกมที่ 17 และเสมออีก 1 ใน 18 นัดที่ลงสนาม ทำแต้มหลุดมือแค่ 2 คะแนนจาก 54 แต้มที่มีให้เก็บ นำโด่งทิ้งอันดับสองไกลสุดกู่ 13 แต้ม

แน่นอนมันตรงกันข้ามกับฤดูกาลนี้ แต้มนำของลิเวอร์พูลมีแค่ 3 ไม่ใช่ 13 ส่วนคะแนนที่ทำหลุดมือก็กระเด็นไปแล้ว 13 แต้มจากทั้งหมด 45 คะแนนที่มีให้เก็บ

ผลงานต่างจากฤดูกาลที่แล้วลิบลับ แต่สิ่งที่ยังเหมือนกันคือพวกเขายังเป็นจ่าฝูงของตาราง

ฤดูกาลก่อนคือปรากฏการณ์ เป็นความยอดเยี่ยม เป็นระเบิดเวลาที่ถึงคราวทำงาน เป็นภูเขาไฟที่กัมปนาทพสุธา

เป็นเหมือนทีมที่มาจากดาวอีกดวง ลิเวอร์พูล 2019/20 เป็นอย่างนั้นจริงๆ เล่นอย่างไรก็ชนะ ทำประตูสำคัญๆ ท้ายเกมได้ตลอดจนแฟนบอลเรียกขานว่าช่วงคล็อปป์ไทม์เหมือนที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเคยมีเฟอร์กี้ไทม์

ยิงชนะเลสเตอร์ ซิตี้ 2-1 นาที 90+5 ตีเสมอยูไนเต็ด 1-1 นาที 85 แซงชนะแอสตัน วิลล่า 2-1 นาที 90+4 ยิงชนะคริสตัล พาเลซ 2-1 นาที 85 ยิงฝังวัตฟอร์ดใจหายใจคว่ำ 2-0 นาที 90

แพ้ยาก เสมอก็ยังยาก ทีมหงส์แดงเล่นเหมือนทีมที่บรรลุวิทยายุทธ ควานหาชัยชนะได้ตลอดไม่ว่าจะเล่นดีหรือเล่นไม่ดี

การเอาผลการแข่งขันของฤดูกาลนี้ไปเปรียบเทียบกับฤดูกาลก่อนอาจทำให้แฟนบอลรู้สึกถึงความแตกต่าง เป็นอารมณ์หม่นๆ ที่มองเห็นสถานการณ์ของทีมไม่มั่นคงอย่างเดิม

จากที่นำ 13 แต้มหลังบ๊อกซิ่งเดย์ปีก่อนเหลือแค่ 3 แต้มหลังบ๊อกซิ่งเดย์ปีนี้

กระนั้นถ้าเดอะค็อปจะวางความไม่สบายใจลงไปบ้าง เอาความสมบูรณ์แบบพักไว้สักครู่บ้างแล้วมองทีมรักอีกครั้ง ลิเวอร์พูลก็ยังคงเป็นจ่าฝูงและเป็นเต็งหนึ่งจากทุกสำนัก

ยังคงเป็นทีมที่ทุกคนจ้องจะโค่นให้ได้และต้องโค่นให้ได้ด้วยเพื่อก้าวแซงขึ้นไปอยู่เหนือกว่า

มองลึกลงไปในรายละเอียด ฤดูกาลนี้ก็มีหลายเกมที่ลิเวอร์พูลมีคล็อปป์ไทม์ ประตูสำคัญมาในจังหวะที่จวนเจียนจนหลุดอยู่แล้ว

ยิงชนะลีดส์ ยูไนเต็ด 4-3 นาที 88 ยิงชนะเวสต์แฮม 2-1 นาที 85 ยิงชนะสเปอร์ส 2-1 นาที 90

อาการตายยากก็ยังมีให้เห็น เพียงแต่โฟกัสของกองเชียร์ไม่ค่อยพุ่งไปที่ตรงนั้น หากจะใส่ใจกับความผิดหวังมากกว่า

ตรงนี้น่าจะเป็นธรรมชาติของมนุษย์คือจิตใจจะหมกมุ่นอยู่กับเรื่องที่ทำให้รู้สึกแย่ เหมือนเราอ่านคอมเมนต์ในโลกโซเชียลที่ต่อว่าด่าทอเรา แม้จะเพียงแค่ข้อความเดียวก็รบกวนใจเราไปได้หลายวัน ทั้งยังเผลอมองข้ามความคิดเห็นดีๆ ที่ชื่นชมหรือให้กำลังใจเราไปเสียอีก

เดอะค็อปบางส่วนจึงไม่ได้มองตำแหน่งจ่าฝูง ไม่ได้มองขุมกำลังสนับสนุนที่ช่วยกันพาทีมยึดอันดับหนึ่งทั้งๆ ที่มีปัญหานักเตะบาดเจ็บมากมาย ไม่ได้มองการแก้ปัญหาระดับสุดยอดของเจอร์เก้น คล็อปป์ ไม่ได้มองการฮึดสู้จนยิงประตูชัยช่วงท้ายเกมได้หลายครั้ง

แต่ใจนั้นไพล่ไปมองอยู่ที่การนำแค่ 3 คะแนน การบาดเจ็บมากมายของนักเตะในทีม การสะดุดกับไบรท์ตัน ฟูแล่ม และเวสต์บรอมวิช โดนไบรท์ตันตีเสมอ 1-1 นาที 90+2 โดนเวสต์บรอมวิชตีเสมอ 1-1 ก่อนหมดเวลา 8 นาที

จดจ่ออยู่กับการเล่นที่ไม่ดีจนเจียนไปเจียนอยู่ในเกมเสมอฟูแล่ม กังวลอยู่กับความผิดพลาดส่วนบุคคลของเคอร์ติส โจนส์ ที่มีส่วนกับการเสียลูกเตะมุมเป็นที่มาในประตูตีเสมอของเดอะแบ๊กกี้ส์

ถ้าเปรียบเทียบกันมันก็คงไม่มีความสุข อย่าลืมว่าผลงานของลิเวอร์พูลเมื่อฤดูกาลที่แล้วนั้นมหัศจรรย์ในระดับที่แทบไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน แต่ก็นั่นล่ะ บางครั้งธรรมชาติก็พาเราให้คิด

สุดท้ายแล้วมันก็แค่เกมๆ หนึ่งที่ผ่านไป หลายครั้งที่การแข่งขันต้องลุ้นกันไปจนถึงนัดสุดท้าย ตัดสินกันที่แต้มห่างกันไม่กี่คะแนนหรือบางทีเพียงประตูได้เสีย ไม่ได้ทิ้งกันห่างขาดลอยคว้าแชมป์ล่วงหน้า 6-7 นัดเสมอไป

แล้วเอาเข้าจริงๆ โอกาสที่จะได้แชมป์ก่อนหมดฤดูกาลนานถึงขนาดนั้นแทบเป็นไปไม่ได้ นานๆ จึงจะเกิดขึ้นสักที พรีเมียร์ลีกคือการแข่งขันที่เข้มข้น หลายซีซั่นเข้าสู่ 4-5 นัดสุดท้ายแล้วยังดูไม่ออกว่าใครจะเข้าป้าย

มีปัญหาก็แก้ไขปัญหา อย่างที่คล็อปป์แก้ไขเรื่องการขาดแคลนตัวผู้เล่น

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.planetefootball.com/