“ลมหายใจผี”

เชื่อเหลือเกินว่าแฟนผีหลายคนคงคิดคล้ายๆกันเมื่อได้เห็นรายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงในพรีเมียร์ลีก ดวลกับ เวสต์แฮม ที่ไม่มีชื่อของ บรูโน่ แฟร์นันด์ส เพลย์เมกเกอร์ตัวเก่งบรรจุอยู่ในนั้น

จินตนาการภาพออกเลยว่า เกมจะต้องตื้นๆตันๆ กดดันคู่แข่งไม่ได้ แล้วมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ผู้มาเยือนไม่อาจทำเกมใส่ทีมงานของ เดวิด มอยส์ ได้เลย แถมยังมาเสียประตูไปก่อนอีกต่างหาก

ผลสุดท้ายแล้ว โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ก็ต้องเปลี่ยนลมหายใจของ “ลิเวอร์พูล” ลงมาพลิกเกม เหตุผลที่เก็บเอาไว้ก่อนก็คงไม่ใช่อะไร เพราะมีเกมใหญ่สุดสำคัญกับ แอร์เบ ไลป์ซิก รออยู่นั่นเอง

กองกลางชาวโปรตุกีสถูกส่งลงสนามมาในช่วงครึ่งเวลาหลัง แล้วก็สร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับทีมอย่างรุนแรง

อดีตกองกลางสปอร์ติ้ง ลิสบอน เป็นคนแอสซิสต์ให้ ปอล ป็อกบา ตะบันประตูตีเสมอ และเป็นจุดเริ่มต้นของอีก 2 ประตูต่อมา

เกมรุกของ ”แมนเชสเตอร์” ไหลลื่นทันทีเมื่อมี แฟร์นันด์ส การออกบอล จากเปลี่ยนแกนเกมทำได้อย่างเนี้ยบ

ช่วงเวลาเพียง 45 นาทีที่มีโอกาสอยู่สนาม บรูโน่ สร้างสรรค์โอกาสทำประตูจากจังหวะโอเพ่นเพลย์ไปทั้งหมด 8 ครั้ง ทั้งที่ในช่วงครึ่งเวลาแรกในลอนดอน สเตเดี้ยม เพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆทำได้รวมกัน 3 ครั้ง

จากการลงสนามรับใช้ทีมไป 10 เกมในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ บรูโน่ สร้างโอกาสทำประตูรวมแล้ว 35 ครั้ง ผู้เล่นที่ผลงานใกล้เคียงที่สุดคือ เควิน เดอ บรอยน์ ของแมนฯ ซิตี้ ทำไป 28 ครั้ง

เท่ากับว่า นับตั้งแต่ย้ายมาสวมเครื่องแบบแดงเพลิงแห่ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บรูโน่ มีส่วนร่วมกับการทำไปแล้ว 36 ประตู จากการลงสนาม 38 เกมในทุกรายการ แบ่งเป็นการยิงเอง 22 แอสซิสต์ 14

ไม่เพียงแต่การสร้างสรรค์เกม บรูโน่ ยังเป็นเหมือนพลังงานที่จะคอยสูบฉีดความฮึกเหิมให้กับเพื่อนร่วมทีม คอยเดินหน้าต่อสู้ไปพร้อมๆกัน เขามาพร้อมกับภาวะผู้นำแบบเกินพิกัดอีกต่างหาก

ยังแอบเสียดายอยู่เลย กับการที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ยอมคว้าตัว แฟร์นันด์ส มาร่วมทัพตั้งแต่ช่วงหน้าร้อนปีก่อน ทั้งที่ก็มีข่าวพัวพันกันมาอย่างรุนแรง กว่าจะได้ลงเอยกันจริงๆก็ต้องช่วงปีใหม่

หากวัดจากสิ่งที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่การประเดิมสนามเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ กับการพา แมนฯ ยูไนเต็ด สอยมาได้ถึง 51 คะแนน ถ้าได้ตัว บรูโน่ มาตั้งแต่เนิ่นๆ เผลอๆทีมของ โซลชา อาจมีลุ้นแชมป์กับเขาไปแล้ว

และถ้าลองคิดในมุมกลับกัน หากไม่มี บรูโน่ เข้ามาเป็นลมหายใจแห่ง แมนฯ ยูไนเต็ด แล้วล่ะก็ เห็นทีทีมของ โอเล่ คงไม่ได้ไปเล่นแม้แต่ยูโรปา ลีก

ยิ่งเมื่อมาเทียบกับความเป็นจริงที่ว่า บรูโน่ รับค่าเหนื่อยจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่เพียงสัปดาห์ละแสนปอนด์ หรือในระดับใกล้เคียงกับนักเตะอย่าง เจสซี่ ลินการ์ด ก็บอกได้เลยว่า

คุ้มเสียยิ่งกว่าคุมซะอีก