" "

คืนนี้พร้อมลุย

คืนนี้พร้อมลุย

ลิเวอร์พูลต้องเตะกับอาร์เซน่อลอย่างต่อเนื่อง

เหมือนเรื่องบังเอิญเพราะเกมลีกช่วงปลายฤดูกาลที่แล้ว เกมลีกช่วงต้นฤดูกาลนี้

ลิเวอร์พูลต้องเตะกับอาร์เซน่อลอย่างต่อเนื่อง

รวมทั้งเส้นทางในฟุตบอลถ้วยทำให้ทั้งสองทีมต้องพบกันจนเบื่อ เพราะเพิ่งจะผ่านเกมคอมมิวนิตี้ชิลด์ก่อนเปิดซีซั่นกันไป เดี๋ยวสัปดาห์หน้าก็ต้องฟาดฟันกันอีกในลีกคัพรอบสี่เสียแล้ว

นั่นหมายความว่าลิเวอร์พูลต้องเจอกับอาร์เซน่อลถึง 4 จาก 15 เกมทุกรายการ

การพบกันบ่อยๆ อย่างนี้มีทั้งเรื่องดีและไม่ดี

เรื่องดีก็คือเราสามารถปรับแก้ปัญหาได้เร็วขึ้น มีโอกาสเปลี่ยนจากความพ่ายแพ้เป็นชนะได้มากขึ้นเพราะรู้จักคู่ต่อสู้ดีขึ้น อีกทั้งในกรณีที่คู่แข่งมีนักเตะตัวหลักบาดเจ็บ นักเตะคนนั้นอาจจะยังหายเจ็บไม่ทันกลับมาช่วยทีม

ในทางกลับกัน เรื่องไม่ดีก็แค่ย้ายฝั่ง เรามีโอกาสชนะมากขึ้น อีกฝ่ายก็มีโอกาสชนะมากขึ้นเช่นกันเพราะรู้จักเรามากกว่าเดิมเหมือนกัน

สำหรับหงส์แดงกับปืนใหญ่ การเจอกันครั้งที่ 3 ในรอบเวลาไม่ถึง 3 เดือนนี้อาจจะเป็นผลดีกับฝั่งแชมป์พรีเมียร์ลีกมากกว่าเนื่องจากผลการแข่งขัน 2 เกมที่ผ่านมาพวกเขาเป็นรอง

แพ้ในเกมลีก 1-2 ที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม และแพ้จุดโทษในศึกคอมมิวนิตี้ ชิลด์ที่เวมบลีย์

มันคือ 2 เกมที่ไม่ได้มีความหมายอะไรถ้าว่ากันถึงความเข้มข้นในการลุ้นแชมป์ เตะกันที่บ้านปืนใหญ่วันนั้นลิเวอร์พูลเป็นแชมป์ไปแล้ว หวดกันในเวมบลีย์ก็แค่ศึกชิงโล่การกุศล ได้แชมป์ก็ดี ไม่ได้แชมป์ก็ใช่ว่าต้องโศกเศร้าเสียดาย

เกมหน้าที่รออยู่ในวันพฤหัสฯ นี้ก็เช่นกัน ฟุตบอลลีก คัพหรือในชื่อปัจจุบันคาราบาว คัพ รอบสี่ ไม่ได้มีความสำคัญชนิดชี้เป็นชี้ตายต้องชนะให้ได้สถานเดียวอะไรอย่างนั้นเลยในความรู้สึก

ชนะก็ดี จะได้เข้ารอบและเห็นเด็กๆ รวมทั้งตัวสำรองได้โอกาสลงสนามเพิ่มขึ้น แพ้ก็ไม่เป็นไร ไม่หงุดหงิดงุ่นง่านอารมณ์เสียทั้งวันอะไรแบบนั้น

บางทีฟุตบอลก็มีเรื่องแปลกๆ แบบนี้แหละ กับบางทีมชีวิตนี้ไม่เคยมีโอกาสได้เตะกัน บางทีมเจอกันหนแรกในรอบครึ่งศตวรรษ แต่ลิเวอร์พูลที่ปกติต้องเตะกับอาร์เซน่อลปีละ 2 ครั้งอยู่แล้วกลับต้องมาเจอกันเอง 4 หนในเวลาแค่ 2 เดือนครึ่ง

ถ้าว่ากันถึงความพร้อม ลิเวอร์พูลไม่ได้พร้อมไปกว่าอาร์เซน่อล ทั้งร่างกายและจิตใจ

ความปราชัย 2 รายการติดทั้งในลีกและคอมมิวนิตี้ ชิลด์แม้จะไม่ใช่เกมเดิมพันสำคัญแต่ย่อมทำให้หงส์แดงไม่ได้เปรียบเรื่องความฮึกเหิม เพราะต่อให้พวกเขาไม่รู้สึกรู้สาหรือวิตกกังวลอะไรกับความพ่ายแพ้ 2 ครั้งนั้น อาร์เซน่อลกลับสลัดความไม่เชื่อมั่นในตัวเองทิ้งไปเรียบร้อยด้วยการพิชิตยอดทีมจากเมอร์ซี่ย์ไซด์ทั้ง 2 เกมนั่นแหละ

คือในขณะที่ความมั่นใจของลิเวอร์พูลเท่าเดิมหรือลดลงกว่าเดิม ฝั่งอาร์เซน่อลกลับมากขึ้น และยิ่งผลงานในภาพรวมนัดอื่นๆ ของเดอะกันเนอร์สดึขึ้นด้วยพวกเขาก็น่าจะพร้อมมากๆ กับการเยือนแอนฟิลด์ในเกมมันเดย์ไนท์

แน่นอน เกมคืนวันจันทร์นี้สำคัญกว่าคืนวันพฤหัสฯ ด้วยความที่มันคือพรีเมียร์ลีก มี 3 คะแนนเป็นเดิมพัน มีเรื่องที่น่าสนใจตั้งแต่ก่อนแข่งอยู่ 2-3 เรื่องนอกจากการไม่แพ้ลิเวอร์พูลมา 2 นัดติดต่อกันของอาร์เซน่อลแล้ว การบาดเจ็บของ อลีสซง เบ็คเกอร์ กับ ตีอาโก้ อัลกันตาร่า ก็เป็นที่พูดถึงไม่น้อยเหมือนกัน

แชมป์เก่ามีปัญหาเรื่องบาดเจ็บหลายคน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน อเล็กซ์ อ๊อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน โจเอล มาติป ไม่ได้เล่นแน่ เจมส์ มิลเนอร์ กับ โจ โกเมซ ก็ต้องเช็กความฟิตก่อนลงเล่น ข่าวล่าสุดเกี่ยวกับการไม่ได้ซ้อมของ ตีอาโก้ และ อลีสซง จึงไม่ใช่ข่าวดีเลย

ในตำแหน่งเซนเตอร์แบ๊กคู่ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ มาติปเจ็บ โกเมซยังไม่แน่ เพราะฉะนั้น ฟาบินโญ่ จึงน่าจะปักหลักเล่นตรงนั้นต่อไปอีกเกมหลังทำหน้าที่ได้เยี่ยมในวันดับเชลซี แต่ดูแย่ลงในครึ่งหลังของเกมชนะลินคอล์น ซิตี้

ปัญหาก็คือฟาบินโญ่ขยับลงไปยืนเบอร์ 5 แล้ว ใครจะเล่นเบอร์ 6 ในเมื่อเฮนเดอร์สันก็เจ็บ มิลเนอร์ยังไม่แน่ ตีอาโก้ที่ยืนตรงนั้นได้ก็อาจจะไม่ลงสนาม

ก็คงเหลือ นาบี เกอิต้า กับ จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม คนใดคนหนึ่ง หรืออาจจะปรับการเล่นเป็น 4-2-3-1 ไปเลยไหมถ้าการใช้ 4-3-3 มีปัญหาตลอดใน 2 เกมล่าสุดที่พบอาร์เซน่อล

กองกลางคนอื่นๆ ยังมี เคอร์ติส โจนส์ มี มาร์โก กรูยิช และตัวบนอย่าง ทาคุมิ มินามิโนะ เซอร์ดาน ชากิรี่ และ ดีโอโก้ โชต้า ให้เลือกใช้ เจอร์เก้น คล็อปป์ ไม่น่าจะมีปัญหากับการเลือกผู้เล่นลงสนามหากเป็นรูปแบบและระบบการเล่นต่างหากที่น่าสนใจว่ากุนซือเลือดด๊อยท์ชจะเลือกวิธีไหน

ลิเวอร์พูลมีจังหวะที่ดีกับโปรแกรมเตะ ก่อนที่จะเจอกับปัญหาบาดเจ็บทั้ง อลีสซง และ ตีอาโก้ พวกเขาเพิ่งลงเล่นลีก คัพกับลินคอล์น ได้เคาะสนิมให้นักเตะหลายคน ได้เห็นผลงานที่ดีจาก ชากิรี่ มินามิโนะ โจนส์ และ ดิว็อค โอริกี้ ขณะที่ ฟาน ไดค์ ที่การเล่นดูจะขัดๆ อยู่เล็กน้อยในช่วงเปิดฤดูกาลก็ได้มีเกมเพิ่มปรับจังหวะตัวเองให้กลับมาใกล้เคียงกับร้อยเปอร์เซนต์ขึ้น

มันเกิดขึ้นก่อนวันเจออาร์เซน่อลซึ่งเป็นงานใหญ่พอดี คล็อปป์จึงมีตัวเลือกที่มั่นใจมากขึ้นเพราะอย่างน้อยก็ได้เห็นฟอร์มของนักเตะชุดสองในเกมจริงมาแล้ว ได้เห็นปฏิกิริยาตอบสนองของพวกเขาซึ่งน่าพอใจมากแม้จะเป็นแค่เกมลีกคัพก็ตาม

ให้คาดเดากันไปสำหรับการจัดตัวของคล็อปป์ อาจจะเป็น 4-3-3 ก็ได้หรือ 4-2-3-1 ก็ได้ อาจจะเป็น โจนส์ก็ได้ กรูยิชก็ได้ มินามิโนะ ชากิรี่ โชต้า หรือ โอริกี้ ก็ได้

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แพ้ เลสเตอร์ ซิตี้ โอกาสในการทำแต้มทิ้งเต็งหนึ่งจากเอติฮัด สเตเดี้ยมมาถึงแล้ว อาร์เซน่อลไม่ใช่งานง่ายแน่นอน แต่ก็ไม่ใช่จะปิดประตูชนะเสียเมื่อไหร่

จูนอารมณ์กันให้พร้อม ศึกมันเดย์ไนท์ตีสองคืนนี้ต้องรอชม

ถ้าจะบอกว่าอาร์เซน่อลพร้อม ลิเวอร์พูลก็พร้อมเหมือนกัน พวกเขาผ่าน 2 เกมแรกที่จัดว่ายากเอาการมาได้เรียบร้อยทั้ง ลีดส์ ยูไนเต็ด และ เชลซี พวกเขายังพร้อมยิ่งกว่าเดิมเสียอีกกับเกมล้างตาคู่ปรับจากลอนดอนเหนือที่แอนฟิลด์

 

 

บทความโดย  :: ป้าพล็อต

อ่านข่าวฟุตบอลต่างประเทศ :: ข่าวฟุตบอลวันนี้

บทความฟุตบอล :: บทความฟุตบอลก่อนหน้านี้

เว็บดูบอลออนไลน์ :: ดูบอลออนไลน์ฟรี