" "

ลิเวอร์พูลผ่านเข้ารอบ 4 เอฟเอ คัพได้ตามคาด

ลิเวอร์พูลผ่านเข้ารอบ 4 เอฟเอ คัพได้ตามคาด

ไปถึงไหนในเอฟเอ คัพ ลิเวอร์พูลผ่านเข้ารอบ 4 เอฟเอ คัพได้ตามคาด

ก่อนเกมกับแอสตัน วิลล่า มีข่าวว่านักเตะและสตาฟฟ์โค้ชทีมชุดใหญ่ของทีมสิงห์ผงาดต้องถูกกักตัวไม่สามารถทำหน้าที่ในเกมนี้ได้เนื่องจากมีการตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสนามซ้อมของสโมสร

ดีน สมิธ จอห์น เทอร์รี่ และเหล่าสตาฟฟ์โค้ช แจ๊ก กรีลิช ไทโรน มิงส์ ดักลาส ลุยซ์ รอสส์ บาร์คลี่ย์ โอลลี่ วัตกิ้นส์ เอมี่ มาร์ติเนซ และบรรดานักเตะในทีมชุดใหญ่ ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้มีส่วนร่วมกับเกมแม้กระทั่งเดินทางไปสนามเพราะถือว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยงทั้งหมด

คู่ต่อสู้ที่ลงเล่นที่วิลล่า พาร์คคืนนั้นจึงเต็มไปด้วยนักฟุตบอลระดับเยาวชน โอกาสจึงเป็นของลิเวอร์พูล สื่อและผู้สันทัดกรณีทุกคนชี้ไปที่ขุนพลหงส์แดงจะตบเท้าเข้ารอบต่อไปได้แน่

ทั้งๆ ที่รายชื่อนักเตะของลิเวอร์พูลยังไม่ประกาศออกมาเลยด้วยซ้ำ อย่าลืมว่ามันก็มีความเป็นไปได้เช่นกันที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ จะใช้นักเตะเยาวชนลงเล่นหลายคน

ลิเวอร์พูลเองก็มีปัญหาภายในทีมเรื่องการบาดเจ็บ มันกลายเป็นฤดูกาลที่น่าปวดหัวและเต็มไปด้วยอุปสรรคสำหรับแชมป์เก่า ถึงวันนี้แม้จะมีนักเตะทั้งตัวหลักและตัวเสริมในทีมชุดใหญ่ทยอยกันหายเจ็บกลับมาบ้างแล้วอาทิ ตีอาโก้ อัลกันตาร่า อเล็กซ์ อ๊อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน เซอร์ดาน ชากิรี่ หรือ เจมส์ มิลเนอร์ แต่ตัวหลักคนที่ยังไม่หายเจ็บก็มีทั้ง เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ โจ โกเมซ โฌแอล มาติป และ นาบี เกอิต้า

เพราะฉะนั้นจึงมีการคาดการณ์ในอีกกระแสว่าการจัดตัวทำศึกเอฟเอ คัพรอบสามของคล็อปป์อาจจะเห็นนักเตะชุดสองผสมกับเด็กเยาวชน ดีไม่ดีบรรดาตัวหลักอาจได้พักกันถ้วนหน้าเลยก็ได้

การคาดการณ์ตัวผู้เล่นของสื่อต่างๆ ก็แตกต่างกันออกไป บางเจ้าเชื่อว่าคล็อปป์ยังจะใส่นักเตะตัวหลักอย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน หรือ ฟาบินโญ่ ผสมลงไปในทีมสักแดนละคน บางเจ้าอ่านใจว่ากุนซือเยอรมันจะพักตัวหลักทั้งหมดทุกตำแหน่งเลยโดยจะให้นักเตะชุดสองกับเด็กเยาวชนเล่นแทน

แต่เมื่อถึงเวลาประกาศชื่อขึ้นมาจริงๆ ทุกคนก็ได้เห็นว่าคล็อปป์ไม่ได้คิดอย่างนั้น ในทีมอาจจะมีปัญหานักเตะบาดเจ็บรบกวนแถมยังมีเกมแดงเดือดกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดรออยู่แต่เขาต้องการให้นักเตะตัวหลักของเขามีเกมต่อเนื่อง ไม่กลัวเรื่องเจ็บจนไม่เป็นอันทำอะไร

ถ้าเรื่องนี้ก็ไม่กล้า เรื่องนั้นก็ไม่กล้า เจอร์เก้น คล็อปป์ คงไม่ได้ไปยืนอยู่บนจุดนั้นหรอก

ถ้าคิดเหมือนแฟนบอล คิดเหมือนนักข่าว คิดเออออไปตามสิ่งที่กองเชียร์อยากจะเห็นทั้งหมด เขาก็คงไม่ได้ชื่อว่าเป็นยอดฝีมือคนหนึ่งของวงการอย่างทุกวันนี้

แฟนบอลจึงได้เห็นทั้งซาลาห์ ฟาบินโญ่ เฮนเดอร์สัน ลงสนามตั้งแต่ต้นเกม สมทบกับนักเตะตัวหลักของทีมทั้ง ซาดิโอ มาเน่ จินี่ ไวจ์นัลดุม และ เคอร์ติส โจนส์

เป็นการจัดตัวที่แยบยลหลายอย่าง

ทีมกำลังมีปัญหาเรื่องเกมรุกขาดความมั่นใจและติดขัด เขาก็จัดการให้ผู้เล่นเกมรุกได้ปรับจูนจังหวะด้วยกันใหม่ ทีมยังอยู่ในช่วงรับมือกับบททดสอบด้ายเกมรับและต้องชั่งใจว่าจะเอาอย่างไรกับตำแหน่งเซนเตอร์แบ๊กที่ยืนคู่กับฟาบินโญ่ จะเป็น รีส วิลเลียมส์ หรือ แนท ฟิลลิปส์ หรือคนอื่นๆ

เขาก็ให้เจ้าหนูรีสลงประจำการคู่ฟาบินโญ่ตั้งแต่ต้นเกม

พูดง่ายๆ คือการจัดตัวของคล็อปป์เป็นประโยชน์ต่อทีมทั้งหมดทุกตำแหน่งเลย เกมรุกก็ได้ปรับแต่งตัวเอง เกมรับก็ได้เกมทดสอบความเหนียวแน่น เนโก้ วิลเลี่ยมส์ ก็ได้ขัดเกลาเกมทางแบ๊กขวา ส่วนทางซ้ายนั้น แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ได้พักไป

นี่คือมุมมองที่ละเอียดของคล็อปป์และทีมงานของเขา ปัญหาบาดเจ็บใครก็กลัวและไม่อยากให้เกิดขึ้นหรอกแต่กลัวจนลนลานไม่กล้าทำอะไรก็ไม่มีประโยชน์

ลิเวอร์พูลจะต้องอยู่กับทีมชุดนี้ไปตลอดทั้งฤดูกาลถ้าตลอดเดือนมกราคมไม่ซื้อนักเตะใหม่มาร่วมทีมจริงๆ

มันก็อย่างที่คล็อปป์พูดไว้เสมอว่า การแก้ปัญหาคือส่วนหนึ่งของการทำงาน เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นก็ต้องปรับแก้กันไปตามเงื่อนไขที่มี ยิ่งฟุตบอลในช่วงนี้เป็นเรื่องไม่ปกติเพราะโควิด-19 ทุกอย่างมีความเสี่ยงด้วยกันหมดแม้กระทั่งนักเตะใหม่ที่ได้ัตัวมาจะติดโควิดเมื่อไหร่ก็ไม่รู้หรือถ้าดวงแตกไปเจ็บเหมือนกับตัวหลักคนอื่นๆ อีกจะว่าอย่างไร

สำหรับคนที่มองว่าการซื้อคือคำตอบทั้งหมดก็คงต้องผิดหวัง หรืออย่างน้อยก็อาจจะต้องผิดหวัง เพราะคล็อปป์และทีมงานมองวิธีแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในอีกภาพ

ลิเวอร์พูลผ่านเข้ารอบได้ตามคาดจริงๆ แต่ก็ยังมีโจทย์ให้คล็อปป์ต้องตามแก้อีกเยอะ ด้วยเกมในครึ่งแรกไม่น่าพอใจ แม้จะกลับมากระตือรือร้นขึ้นในครึ่งหลัง

กระทั่งตัวเขาก็ยังพูดเองว่านอกจากชมเชยนักเตะหนุ่มๆ ของแอสตัน วิลล่าแล้วทีมของเขาเองก็ยังเล่นได้ไม่น่าพอใจเลยสักนิด ยังดีที่มีปฏิกิริยาที่ดีขึ้นในครึ่งหลัง

ระยะหลังๆ ลิเวอร์พูลมักจะเป็นอย่างนี้จริงๆ ครึ่งแรกเนือย ต้องมาเร่งครึ่งหลัง ราวกับต้องรอให้ไฟลนก้นก่อน จากซูเปอร์คาร์เหยียบคันเร่งวิ่ง 1-100 เมตรในเวลาแค่กระพริบตากลายเป็นเครื่องดีเซลออกตัวอืดอาดอุ้ยอ้าย

สุดท้ายแล้วก็ทันบ้างไม่ทันบ้าง เสียแต้มไปก็หลายคะแนน ถามว่าเสียหายต่อการป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีกไหมก็ต้องรอดูที่ผลลัพธ์ ถ้ายังป้องกันแชมป์ได้ก็ไม่เสียหาย แต่ถ้าเสียแชมป์ก็นั่นล่ะ เสียหายแน่ๆ

แฟนบอลก็ต้องลุ้นกันหนักหน่อย ฤดูกาลนี้หนักหน่วงทั้งเรื่องในสนามและเรื่องนอกสนามเลย

ในเอฟเอ คัพยังไม่รู้ว่าคู่ต่อสู้รอบต่อไปจะเป็นใคร คล็อปป์มีประวัติไม่ค่อยโสภานักกับฟุตบอลถ้วยนี้อยู่แล้วเพราะทีมของเขาด่วนตกรอบก่อนอยู่บ่อยๆ

ไม่รู้อีกเช่นกันว่าเขาจริงจังกับรายการนี้เพียงใด การจัดตัวผู้เล่นในเกมรอบสามที่วิลล่า พาร์คก็ดูจะเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของทีมมากกว่าที่จะมุ่งมั่นเต็มที่ที่จะเข้ารอบ

ยังคาดเดาไม่ออกด้วยซ้ำว่าในรอบ 4 รอบ 5 หรือรอบลึกกว่านั้นถ้าไปถึง เขาจะมองธุระของการลงเตะอย่างไรถ้าหากฟุตบอลลีกเดินเข้าสู่ช่วงไคลแม็กซ์ของฤดูกาล

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.planetefootball.com/