" "

ความกังวลมลายไป

ความกังวลมลายไป

ลิเวอร์พูลฤดูกาล 2020/21 จะมีภาพที่แตกต่างไปจากเดิมชัดเจนที่ตำแหน่งฟูลแบ๊ก

การต่อสัญญายาว 5 ปีของ เนโก้ วิลเลียมส์ และการก้าวเข้ามาของ คอสตาส ซิมิกาส คือกุญแจสำคัญตรงนั้น

ลิเวอร์พูลฤดูกาล 2020/21 จะมีภาพที่แตกต่างไปจากเดิมชัดเจนที่ตำแหน่งฟูลแบ๊ก

 

เดอะค็อปเชียร์ทีมรักโดยรู้ตัวว่าขุมกำลังแนวลึกของ เจอร์เก้น คล็อปป์ นั้นยังเป็นรองแมนเชสเตอร์ ซิตี้

คือเล่นทดแทนกันน่ะพอไหว แต่จะให้ได้คุณภาพและมาตรฐานอย่างที่ทีมตัวจริงทำเอาไว้.. ยังยาก

แบ๊กซ้าย-ขวาก็เช่นกัน แฟนบอลลิเวอร์พูลทุกคนต่างก็รู้ดีว่าไม่มีใครเล่นแทน เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ กับ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ได้เลย และเอาเข้าจริงคำว่า “พอไหว” สำหรับตัวสำรองที่ลงสนามแทนนั้นก็ยังห่างไกล

กับตำแหน่งอื่นพอจะใช้ว่า “พอไหว” ได้ แต่ตำแหน่งฟูลแบ๊กไม่ใช่เลย ระดับของเทรนต์และร็อบโบ้ทะยานไปแตะขีดบนของการเป็นท็อปทรีหรือท็อปไฟฟ์แบ๊กขวา-ซ้ายของโลกไปแล้ว การจะหาใครเล่นแทนเป็นตัวหมุนเวียนจึงไม่ใช่ง่ายๆ

แม้กระทั่งการซื้อซิมิกาสและต่อสัญญากับวิลเลียมส์เองก็ใช่ มันไม่ใช่การแก้ปัญหาได้เด็ดขาดหรอกเพราะทั้ง 2 คนยังต้องพิสูจน์ตัวเองอีกมากกว่าจะได้รับการยอมรับว่าทำได้เท่าหรือใกล้เคียงกับเจ้าของตำแหน่งเดิม

กระนั้นมันก็เป็นอีกภาพหนึ่งที่สวิงจากดำเป็นขาว จากลบเป็นบวกอย่างรวดเร็ว

เพราะจากที่มองไปไม่เห็นตัวแทนของเทรนต์และโรเบิร์ตสันเลย เวลาผ่านไปแค่ช่วงปรีซีซั่นเตรียมความพร้อมป้องกันแชมป์ เจอร์เก้น คล็อปป์ เพิ่มความสบายใจให้กับเดอะค็อปรวดเดียวครบทั้ง 2 ฝั่งเรียบร้อย

เหมือนความไม่สบายใจปลาสนาการไปในฉับพลัน จากที่เคยกังวลว่าคู่หูเทรนต์กับร็อบโบ้จะเหนื่อยเกินไปไหม จะได้รับบาดเจ็บไหม แล้วถ้าเล่นไม่ได้ใครจะลงสนามแทน.. ทุกอย่างหายวับไปแล้ว

รู้อยู่หรอกว่าคงไม่ใช่การทดแทนกันได้แบบร้อยเปอร์เซนต์ ค่าประสิทธิภาพคงจะลดลงไปบ้างสัก 2-3 ส่วน แต่มันก็เป็นความรู้สึกที่อุ่นใจกว่า 2 ปีที่ผ่านมาเยอะ

เพราะการที่เราได้เห็นขีดระดับของเทรนต์และร็อบโบ้ เพราะการที่เราได้เห็นการกรำศึกของทั้งคู่ เพราะการที่เราได้เห็นทั้งสองคนต้องถูกส่งลงสนามกลางคันทุึกทีที่คล็อปป์หมุนใช้ตัวสำรอง กลายเป็นจะได้พักทั้งทีก็พักไม่เต็มที่

การมีอยู่ของวิลเลียมส์และซิมิกาสทำให้ช่องว่างที่เคยห่างกันมากระหว่างร็อบโบ้/เทรนต์และตัวสำรองของพวกเขาลดแคบลงมา วิลเลียมส์เติบโตขึ้นอีกปีและเข้าสู่การได้ใช้งานในทีมชุดใหญ่ เขาจะเป็นนักเตะที่ดียิ่งกว่าปีก่อนแน่ อย่างน้อยก็ได้ประสบการณ์ล้ำค่าที่ถูกส่งลงสนามต่อเนื่องในช่วงท้ายฤดูกาลที่ผ่านมาเป็นต้นทุน

ช่องว่างทางแบ๊กขวาที่เทรนต์เคยทิ้งตัวทดแทนอย่าง โจ โกเมซ หรือ วิลเลียมส์ ไกลลิบจึงถูกบีบแคบลง เช่นเดียวกับฝั่งซ้ายที่เดิมนั้นห่างยิ่งกว่าทางขวาเสียอีก เลเวลของร็อบโบ้ทะลักจุดเดือดจนไม่ว่าจะจับใครมาลงเล่นก็เห็นความแตกต่างว่าแทนกันไม่ได้เลย ที่สำคัญคือตัวเลือกที่เป็นแบ๊กซ้ายธรรมชาติของคล็อปป์นั้นไม่มีเลยอีกด้วย

เจมส์ มิลเนอร์ ก็โรยราลงอีกปี ให้ท่านรองเล่นประคองตัวน่ะได้ แต่ให้เติมเกมขึ้น-ลงตลอดเวลาอย่างร็อบโบ้นั้นทำไม่ได้แล้ว ถัดลงไปก็เป็นวิลเลียมส์บ้่าง เทรนต์เองบ้างถูกโยกจากฝั่งขวามาลองยืนด้านซ้าย ผลก็คือไม่เวิร์คเท่าไหร่ สุดท้ายก็ต้องส่งแบ๊กซ้ายกัปตันทีมชาติสกอตแลนด์ลงสนามอยู่ดี

แต่การเข้ามาของ ซิมิกาส ยิ่งตอบโจทย์ จะดีจะแย่อย่างไรคงยังฟันธงแน่นอนไม่ได้แต่แบ๊กซ้ายทีมชาติกรีซน่าจะสดและลงตัวกับบทบาทตัวทดแทนของร็อบโบ้ได้ดีกว่ามิลเนอร์ วิลเลียมส์ หรือ เทรนต์ แน่ๆ

นี่คือเรื่องดีๆ ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว.. เร็วชนิดไม่ทันตั้งตัว มันทำให้เรามองเห็นภาพของปัญหาที่เคยปกคลุมใน 2 ตำแหน่งนี้มลายหายไป

ที่เหลือก็แค่รอดูว่าความกังวลที่หายไปนั้นจะถาวรหรือแค่ชั่วคราว

ถ้าวิลเลียมส์และซิมิกาสทำได้ในระดับที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ คาดหวัง เราก็จะได้เห็นลิเวอร์พูลที่มีฟูลแบ๊กเป็นอาวุธหนักต่อไปอีกหลายปี และถ้าทำได้ในระดับที่ท้าทายตำแหน่งตัวจริงของเทรนต์และร็อบโบ้ด้วยก็จะยิ่งเป็นประโยชน์กับทีมแบบยกกำลังสอง

เดอะค็อปย่อมหวังให้เป็นแบบนั้น รักเทรนต์น่ะรักแน่ รักร็อบโบ้นั่นก็เถียงสักคำไหม แต่ถ้ารักษาฟอร์มตัวเองไม่ได้จนถูกตัวสำรองแซงหน้าเบียดหลุดจากตำแหน่งตัวจริงก็ช่วยไม่ได้ ยังรักเหมือนเดิมแหละแต่นาทีนั้นอาจมีความรู้สึกอยากเห็นเนโก้เล่น อยากเห็นคอสตาสเล่น มากกว่าเกิดขึ้นก็ได้ใครจะรู้

ฟุตบอลนี่ก็แปลก จากที่เคยกังวลอยู่ดีๆ มันก็สลายไปง่ายๆ.. ง่ายเหมือนแค่พลิกฝ่ามือ

กับแค่การต่อสัญญาดาวรุ่งฟอร์มแรงและซื้อนักเตะใหม่อีกคนเท่านั้น แล้วความกังวลก็เคลื่อนคล้อยย้ายไปยังจุดอื่น แต่ตรงฟูลแบ๊กที่เคยห่วงที่สุดกลับหายห่วงไปแล้ว

มันคือความตื่นเต้นของเดอะค็อปที่ได้รู้ว่าแบ๊กขวา-ซ้ายที่พวกเขาทั้งรักทั้งห่วงนั้นมีคนที่เหมาะสมมาพร้อมเล่นแทนแล้ว แตกต่างจาก 2 ฤดูกาลก่อนที่มองไม่เห็นใครอื่นเลย

น่าสนใจมากกับการขยับตัวของลิเวอร์พูลในครั้งนี้ ไม่จำเป็นต้องซื้อนักเตะซูเปอร์สตาร์ก็ทำให้อิ่มเอมใจได้ หลังจากนี้ติดตามคล็อปป์และทีมงานของเขาก็สนุกไม่ใช่เล่นว่ายังจะเสริมใครอีกไหม และถ้าเสริมจะเป็นตำแหน่งที่ตรงใจแฟนบอลหรือเปล่า เวลานี้เดอะค็อปบ่นๆ กันว่าขอเซนเตอร์แบ๊กอีกสักคน มิดฟิลด์ตัวรุกอีกสักตัว กองหน้าคมๆ อีกสักรายก็ดีนะ

มันอาจจะเกิดขึ้นก็ได้ อาจจะ 1 คนหรือ 2 คน แต่คงไม่ใช่ครบทั้ง 3 คนแน่ ถ้าจะลองอ่านใจคล็อปป์และประมวลจากทิศทางการลงตลาดของสโมสรในช่วงโควิด-19 ไม่ซื้อใครเพิ่มอีกเลยแม้แต่คนเดียวและใช้วิธีมอบโอกาสให้เด็กอย่าง รีอาน บริวสเตอร์ หรือ แนท ฟิลลิปส์ แทนอาจมีความเป็นไปได้มากกว่า

 

 

บทความโดย  :: ป้าพล็อต

อ่านข่าวฟุตบอลต่างประเทศ :: ข่าวฟุตบอลวันนี้

บทความฟุตบอล :: บทความฟุตบอลก่อนหน้านี้

เว็บดูบอลออนไลน์ :: ดูบอลออนไลน์ฟรี