เฟร์นานโด ตอร์เรส LFC ทรยศผม 2

เจมี่ คาร์ราเกอร์ มีโอกาสสัมผัส การทำงานระหว่างฮอดจ์สันและตอร์เรส พอดีกับช่วงปลายของการค้าแข้ง เขารำพึงรำพันกับตัวเองว่า “ถ้าเป็นผจก หรือ โค้ช ต้องเจออะไรแบบนี้  คงบีบคอตอร์เรส แต่ฮอดจ์สันทำแบบนี้นไม่ได้ เพราะหมดจากตอร์เรส ลิเวอร์พูลไม่มีใคร ดังนั้น ต้องพยายามปลอบประโลมว่า ทำดีแล้ว พยายามสร้างความมั่นใจให้นักเตะ ขอให้นักเตะมั่นใจในตัวเขาบ้าง

ตอร์เรสรับรู้เรื่องราว ความเห็นต่างๆว่า เขายอมแพ้ไม่เต็มที่ และปฏิเสธ แต่สถิติต่างๆ ไม่ช่วยตอร์เรสสักเท่า นอกเหนือจาก 2 ประตูเกมเชลซี มีอีกแค่ 3 ประตูในลีกฤดูกาล 2010/11 ก่อนถึงหน้าต่างซื้อขาย ตอร์เรสบอกว่า เขาล้าเกินกว่าที่จะเล่น จากฟุตบอลโลก 2010 ต้องรายงานตัวกับลิเวอร์พูลอย่างรวดเร็ว และความขัดแย้งกับฮอดจ์สัน เขาบอกว่ารับถือกุนซือคนนี้และยกย่องว่าเป็น โค้ชที่ดีและบุคคลน่านับถือด้วย แต่สตาฟคนอื่นที่เพอร์สโลว์แต่งตั้งมาก ตอร์เรสคิดว่า ไม่ค่อยเวิร์คเท่าไร รวมถึงทีมแพทย์จากออสเตรเลียที่ตอร์เรสคิดว่า มีอิทธิพลต่อการทำงานของฮอดจ์สันมากไป เรื่องความฟิตของนักเตะ แน่นอน หมายถึงตอร์เรสด้วย

“ฮอดจ์สันไม่มีโอกาสทำงานอย่างเต็มที่ สถานการณ์นั้น สร้างปัญหาให้ ผจก และ ทุกคน ตั้งแต่พรีซีซั่นจนถึงมกราคม มันคือฝันร้าย” ตอร์เรสกล่าว

การขายหุ้นสโมสรเรียบร้อย ลิเวอร์พูลอยู่ในมือของ FSG แต่ตอร์เรสยังไม่มั่นใจว่า สโมสรมีทิศทางการทำงานที่ถูกต้อง ในยุคของ FSG อนาคตของนักเตะอยู่ในกำมือของเดเมี่ยน โคมอลลี่ อดีตไดเรคเตอร์ ออฟ ฟุตบอลของท็อตแน่ม ซึ่งประสบความสำเร็จในการดึงนักเตะให้ทีมแห่งลอนดอน สำหรับตอร์เรส โคมอลลี่ไม่ต่างจากเพอร์สโลว์ เขาต้องการให้ตอร์เรสอยู่กับลิเวอร์พูล ไม่ใช่เพราะคุณภาพฝีเท้า แต่เพราะลิเวอร์พูลยังหาตัวแทนไม่ได้

ตอร์เรสพูดถึงโคมอลลี่และซัวเรซว่า ลิเวอร์พูลจะได้หลุยส์ ซัวเรซจากอาแจ๊กซื แต่นักเตะอุรุกวัยคงทำประตูได้ไม่เยอะ ดังนั้น ทีมต้องการให้เขาเล่นด้วยกัน ขณะนั้น เขาจะอายุ 27 ในอีก 2 เดือน ตอร์เรสไม่มั่นใจว่า เมื่อไร ลิเวอร์พูลจะก้าวถึงระดับท็อปอีกครั้ง ลิเวอร์พูลปลดรอย ฮอดจ์สันต้นมกราคม 2011 และเคนนี่ เดลกลิชเข้ามาเป็น ผจก เกมสุดท้ายของฮอดจ์สัน ลิเวอร์พูลแพ้ที่แบล็คเบิร์น 3-1 เดอะ ค็อปที่ตามไปอีวู้ด พาร์ค ร้องเพลงเหยียดฮอดจ์สันว่า “ฮอดจ์สัน ผจก ทีมชาติอังกฤษ

ลิเวอร์พูลเชื่อว่า เคนนี่ เดลกลิช ซึ่งเป็นที่รักในเมอร์ซี่ย์จะช่วยกอบกู้ชื่อเสียงให้ทีมกลับไปอยู่ระดับเดิมได้

ตอร์เรสเชื่อมั่นในเดลกลิช ทั้งสองคุยกันหลายครั้งในฮอสพิทัลลิตี้ เลาจน์ของลิเวอรพูล ระหว่างเดลกลิชเป็นทูตสโมสร เขาบอกกุนซือชาวสก๊อตว่า ผิดหวังในการทำงานกับ เพอร์สโลว์และโคมอลลี่ ก้าวแรกระหว่างตอร์เรสกับเดลกลิช เริ่มต้นได้ดี เขายิงได้ 3 ประตูจาก 5 เกมแรกของเดลกลิช

สัปดาห์สุดท้ายของเดือนมกราคม 2011 ตอร์เรสพบเดลกลิชอีกครั้ง ท่ามกลางข่าวเชลซีสนใจตอร์เรสและมีการเจรจากับโคมอลลี่อย่างต่อเนื่อง เขาบอกว่าไม่อยากย้ายจากลิเวอร์พูล และปรารถนาให้เดลกลิชสร้างความมั่นใจและอบอุ่น กับความมุ่งมั่นของสโมสร อาจไม่ได้แชมป์ อย่างน้อยก็ต้องใกล้เคียงกับที่เบนิเตซเคยทำได้เมื่อ 20 เดือนก่อนหน้านั้น ตอร์เรสไม่คิดว่าเดลกลิชเจตนาขายเขาจากทีม แต่เชื่อว่า ผจก ไม่มีอำนาจในเรื่องนี้ และเพิ่งกลับมารับงานจัดการทีมอีกครั้ง หลังห่างไป 12 ปี

จากการประชุมระหว่างสองคนที่เมลวู้ด ข่าวกระพือทันทีว่า ตอร์เรสขอย้ายทีม

ข่าวเหมือนว่าหลังจากคุยกัน เดลกลิชพบว่า จิตใจของตอร์เรสไม่ได้อยู่แอนดฟิลด์ ไม่มีความมุ่งมั่น ขณะที่เขารับงานแบบชั่วคราว และต้องการตำแหน่งถาวรหลังจากนี้ ซึ่งจะได้รับก็ต่อเมื่อผลงานดี ดังนั้น เดลกลิชต้องการนักเตะที่พร้อมจะร่วมทางกับเขาเท่านั้น ใครก็ตามที่มีลักษณะแบบตอร์เรส จะทำให้โอกาสได้งานของเดลกลิชลดน้อยลง

ตอร์เรสเป็นนักเตะที่ดีสำหรับลิเวอร์พูล แต่ในฐานะกองหน้าเหมือนกัน เดลกลิชรู้ดีกว่า ตอร์เรสฟอร์มตก แต่จะเพราะความมุ่งมั่น หรือร่างกายไม่พร้อม สำหรับการเล่นระดับเดียวกับ 18 เดือนก่อนหน้านี้ก็ตามที ข่าวสำคัญคือ ตอร์เรสไม่พอใจมาก ทำไมบทสนทนาระหว่างเขากับเดลกลิชเป็นข่าวได้ เขาเชื่อว่า ลิเวอร์พูลต้องการต่อรองและเรียกราคาจากเชลซีให้มากที่สุดเท่านั้น อันนี้เขาบอกว่า คุยกับมาสเคราโน่แล้วพบว่า ลิเวอร์พูลปฏิบัติกับนักเตะอาร์เจนไตน์เหมือนกัน

ตอร์เรสพูดถึงโคมอลลี่ว่า อยากร่วมประชุมระหว่างเขาและเดลกลิชด้วย แต่นักเตะปฏิเสธและบอกว่า ไม่เคยได้รับคำตอบที่แท้จริงจากโคมอลลี่ ทำให้เขาไม่แน่ใจว่า ข่าวที่รั่วออกไปเพราะเดลกลิชคุยกับโคมอลลี่หรือไม่ “เอาล่ะ แบบนี้แสดงว่า เราไว้ใจใครไม่ได้ และข่าวที่ออกไปเปลี่ยนมุมมองของแฟนบอลทั้งหมด รวมถึงตัวผมเอง” ตอร์เรสกล่าว

ตอร์เรส อาจมีนายหน้า แต่เมื่อเจรจากับใคร เขาจะพูดคุยด้วยตัวเอง เพอร์สโลว์ โคมอลลี่ และเดลกลิช เขาคิดว่าไม่ควรทำแบบนั้น อาจเพราะเขาจริงใจเกินไป และใช้อารมณ์เกี่ยวข้องกับการทำงานด้วย ควรระวังมากกว่านี้ การขอย้ายทีมควรส่งเป็นจดหมายเท่านั้น และตอนนี้ เขาคิดว่า ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว

เดอะ ค็อปมองว่า เขาคือคนทรยศ สำหรับตอร์เรส ลิเวอร์พูลไม่เคยยอมรับว่า ทั้งทีมมีปัญหา ความมุ่งมั่นกับปัจจุบันและอนาคต รวมถึงแรงปรารถนาถึงชัยชนะที่เคยแรงกล้า และเขากลยเป็นผู้ร้าย “ต้องมีคนผิดสักคน” ตอร์เรสอธิบายแบบนี้

การต่อสู้ทางคดีระหว่าง FSG กับมิลล์ ไฟแนนเชี่ยลของจอร์ช จิลล็ตต์ ดำเนินถึงปี 2006 และรอยัล แบงค์ ออฟ สก๊อตแลนด์ ณ ศาลนิว ยอร์ค มีการเปิดเผยเอกสารจากปี 2010 ที่มิลล์ พยายามซื้อลิเวอร์พูลเหมือนกัน เปิดเผยว่า นิว อิงแลนด์ สปอร์ตส์ เวนเจอร์ส มองว่า ตอร์เรสไม่ใช่นักเตะระดับท็อปอีกต่อไป เช่นเดียวกับ เปเป้ เรย์น่า ผู้รักษาประตู ซึ่งตอนนั้น รับค่าเหนื่อยสูงสุดในทีม

สองปีหลังจากตอร์เรสย้ายไปเชลซี ลิเวอร์พูลให้นาโปลียืมตัวเรน่า ยืนยันว่า FSG มองความคุ้มค่าของนักเตะเป็นอันดับแรก ทั้งตอร์เรสและเรน่าไม่มีทางเล่นได้ดีในระดับเดิม ดังนั้น ทางเดียวที่จะเกิดขึ้นคือ หากำไรให้มากที่สุด

แต่นักเตะที่เข้ามาแทน ไม่อาจทำแบบตอร์เรสช่วงพีคได้ แอนดี้ แคร์โรลล์ ยิงสองประตูในดาร์บี้แม็ทช์ 3 นัด โดยเฉพาะรอบรองเอฟเอ คัพ 2012 แต่เป็น 2 ใน 11 ประตู ตลอดสองฤดูกาลฐานะนักเตะลิเวอร์พูล ซึ่งแคร์โรลล์บาดเจ็บอยางต่อเนื่อง

ตอร์เรสบอกว่า เขาร้องไห้ในวันที่ต้องจากลิเวอร์พูล จากเมลวู้ดเดินทางไปสนามบินจอห์ทน เลนนอน ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปลอนดอน ผ่านน่านน้ำเมอร์ซี่ย์ เขารู้สึกเศร้าแบบไม่เคยคิดว่าจะเกิด เขาเข้าใจดี ถึงอารมณ์แฟนบอลที่เผาเสื้อ ขว้างปาสิ่งของเขาใส่เขาในนัดแรกกับเชลซี “ไม่ใช่ความผิดของแฟนบอล ครั้งนั้น พวกเขาทำให้ผมเป็นเหมือนราชา”

ที่แอนฟิลด์ เขารู้สึกว่า สามารถยิงได้ทุกเกม สำหรับกัปตันแอตเลติโก้ ความกดดันอาจจะน้อยกว่า ในฐานะเด็กปั้นของสโมสรที่ประสบความสำเร็จไม่มาก กับเชลซี เขาถูกกดดันด้วยค่าตัวมหาศาล เช่นเดียวกับบรรยากาศในการร่วมห้องแต่งตัวกับซูเปอร์สตาร์ของเชลซี เขาได้เหรียญชนะเลิศที่ต้องการ แต่เขารู้สึกว่า “ผมได้เหรียญเพราะพวกเขาทำให้มากพอเพื่อแจกกันครบทุกคน”

แน่นอน เขาคิดถึง 18 เดือนแรกกับลิเวอร์พูล เขาคือคนสำคัญของทีมที่แข็งแกร่ง แรงเชียร์จากเดอะ ค็อป และนักเตะคนอื่นที่พลิกเกมได้หากวันนั้นเขาไม่ท็อปฟอร์ม นั่นคือหนทางที่จะผลักดันตอร์เรสสู่ผลงานอันยิ่งใหญ่

“บรรยากาศที่แอนฟิลด์เหมือนมีเวทมนต์” ซึ่งเขารู้ว่า เขาไม่อาจได้รับแรงสนับสนุนแบบนั้นอีกแล้ว ไม่ว่าจากที่ไหนก็ตาม

กิตติกร อุดมผล

Facebook fanpage: Captain No.12

ติดตามข่าวสารได้ที่ :: ข่าวฟุตบอลต่างประเทศ

บทความก่อนหน้า :: เฟร์นานโด ตอร์เรส LFC ทรยศผม 1